เสมาโพล เปิดผลสำรวจ MOE Safety Center

เสมาโพล เปิดผลสำรวจ MOE Safety Center

นายวีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษาว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน จึงได้มีการกำหนดให้เรื่องดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของ ศธ. พร้อมทั้งมีการขับเคลื่อนการดำเนินงานรอบด้านภายใต้นโยบาย “MOE Safety Center สถานศึกษาปลอดภัย” ในหน่วยงานทุกระดับมาอย่างต่อเนื่อง

เสมาโพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบาย MOE Safety Center สถานศึกษาปลอดภัยซึ่งทำการสำรวจจากประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 3,378 หน่วยตัวอย่าง โดยเก็บรวบรวมข้อมูลในรูปแบบการสำรวจออนไลน์ ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-4 กรกฎาคม 2565 ผลการสำรวจพบว่า

1.การรับทราบถึงนโยบาย MOE Safety Center สถานศึกษาปลอดภัยของประชาชน : ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.7 ระบุว่า ทราบถึงนโยบาย MOE Safety Center สถานศึกษาปลอดภัย ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยร้อยละ 31.20 ได้รับทราบข้อมูลผ่านการประชาสัมพันธ์ของสถานศึกษาหรือหน่วยงานทางการศึกษา เช่น การติดป้ายหน้าหน่วยงาน การอบรม และการรณรงค์ ฯลฯ

รองลงมา ร้อยละ 21.55 ได้รับทราบผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการ (www.moe.go.th) ร้อยละ 19.66 ได้รับทราบผ่านสื่อออนไลน์ เช่น YouTube, Facebook, LINE, Twitter ฯลฯ ร้อยละ 3.08 ได้รับทราบผ่านการบอกต่อระหว่างผู้ใช้งานระบบ MOE Safety Center และร้อยละ 1.21 ได้รับทราบผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ โปสเตอร์ แผ่นพับ คู่มือ วารสาร ฯลฯ ส่วนประชาชนร้อยละ 23.30 ระบุว่า ไม่ทราบนโยบายดังกล่าว

2.ประสบการณ์เกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษาของประชาชน : ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 70.57 ระบุว่า ในห้วงปีที่ผ่านมา ตนเองหรือบุตรหลานวัยเรียนไม่เคยประสบกับปัญหาด้านความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษา ส่วนอีกร้อยละ 29.43 ระบุว่า ตนเองหรือบุตรหลานวัยเรียนเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษา

โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 12.29 ระบุว่า เคยประสบภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาวะทางร่างกายและจิตใจ เช่น การกลั่นแกล้ง รังแก รองลงมาคือ ร้อยละ 8.61 ระบุว่าเคยประสบภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุในสถานศึกษา ร้อยละ 5.92 ระบุว่าเคยประสบภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ เช่น การทะเลาะวิวาท และร้อยละ 2.61 ระบุว่าเคยประสบภัยที่เกิดจากการละเมิดสิทธิ์ เช่น การคุกคามทางเพศ การลงโทษแบบไร้เหตุผล ตามลำดับ

3.ความคิดเห็นต่อนโยบาย MOE Safety Center สถานศึกษาปลอดภัยของกระทรวงศึกษาธิการ : ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 59.45 มีความเห็นว่าจุดเด่นของการดำเนินงานรอบด้านตามนโยบาย MOE Safety Center สถานศึกษาปลอดภัยของกระทรวงศึกษาธิการ คือ เป็นการช่วยป้องกันความเสี่ยงในสถานศึกษาที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อตัวบุคคลหรือต่ออาคารสถานที่

รองลงมาคือ ร้อยละ 33.45 มีความเห็นว่าจุดเด่นของการดำเนินงานคือ เป็นการช่วยปลูกฝังหรือสอนให้เด็ก ๆ รู้จักวิธีเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน เน้นการสอนวิชาชีวิตที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการสอนวิชาการ และร้อยละ 7.10 มีความเห็นว่าจุดเด่นของการดำเนินงานคือ เป็นการปราบปรามการกระทำผิดอย่างจริงจัง เน้นเยียวยาแก่ผู้เสียหายเป็นสำคัญ ตามลำดับ

นายวีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ

4.ความเชื่อมั่นต่อนโยบาย MOE Safety Center สถานศึกษาปลอดภัย ของกระทรวงศึกษาธิการ : ผลการสำรวจจำแนกตามกลุ่มผู้ให้ข้อมูล พบว่า

  • กลุ่มผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 56.34 ระบุว่ามีความเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 39.98 ระบุว่าไม่แน่ใจ ส่วนร้อยละ 3.68 ระบุว่าไม่เชื่อมั่น
  • กลุ่มนักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 59.88 ระบุว่ามีความเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 36.19 ระบุว่าไม่แน่ใจ ส่วนร้อยละ 3.93 ระบุว่าไม่เชื่อมั่น
  • กลุ่มครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 61.83 ระบุว่ามีความเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 31.30 ระบุว่าไม่แน่ใจ ส่วนร้อยละ 6.87 ระบุว่าไม่เชื่อมั่น
  • กลุ่มประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่ร้อยละ 49.02 ระบุว่ามีความเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 39.22 ระบุว่าไม่แน่ใจ ส่วนร้อยละ 11.76 ระบุว่าไม่เชื่อมั่น

ในภาพรวมของนโยบาย MOE Safety Center สถานศึกษาปลอดภัย ของกระทรวงศึกษาธิการ ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจ จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ 7.40 คะแนน

เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 70.31 เป็นเพศหญิง และร้อยละ 29.69 เป็นเพศชาย ตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 32.33 เป็นกลุ่มผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

รองลงมาคือ ร้อยละ 21.76 อายุระหว่าง 40 – 49 ปี ร้อยละ 21.73 อายุระหว่าง 30-39 ปี ร้อยละ 11.98 อายุระหว่าง 50-59 ปี ร้อยละ 10.78 อายุระหว่าง 20-29 ปี และร้อยละ 1.42 อายุ 60 ปี ขึ้นไป ตามลำดับ

ตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 53.08 เป็นกลุ่มระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี รองลงมาคือ ร้อยละ 29.93 ระดับการศึกษาปริญญาตรี และร้อยละ 16.99 ระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตามลำดับ

ตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 34.04 เป็นกลุ่มครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา รองลงมาคือ ร้อยละ 33.87 เป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ร้อยละ 30.58 เป็นกลุ่มผู้ปกครอง และร้อยละ 1.51 เป็นกลุ่มประชาชนทั่วไป ตามลำดับ

นายวีระกล่าวด้วยว่า สำหรับ MOE Safety Center เป็นโครงการสำคัญของรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายใต้การบริหารงานของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา

โดยกำหนดให้เป็นวาระแรกใน 7 วาระเร่งด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ เพราะตระหนักดีว่าหากสถานศึกษาไม่มีความปลอดภัยแล้ว จะไม่สามารถจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพให้แก่ผู้เรียนได้ และยังส่งผลต่อการพัฒนาการศึกษาของไทย รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมด้วย

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ sukkatshalomalaska.net

UFA Slot

Releated